น้ำกินมีอิทธิพลกับการเป็นอยู่ของคนเป็นอย่างยิ่งเพราะว่าน้ำเป็นองค์ประกอบที่ยิ่งใหญ่กับชีวิตลำดับที่สองรองลงมาจากจากอ๊อกซิเจน มนุษย์สามารถครองชีวิตอยู่ได้แม้ต้องไม่ได้ทานอาหารเป็นเดือน จากสถิติโลกครั้งสุดท้ายนี้มนุษย์สามารถอดอาหารได้เป็นเวลายาวนานถึง 64 วัน จึงตาย แต่ว่าถ้าขาดน้ำแค่ 2-3 วัน มนุษย์สามารถตายทันที ทั้งนี้เหตุเพราะน้ำคือตัวที่มีหน้าที่สำคัญต่อร่างกายคนมาก
"น้ำ" มีคุณสมบัติเบื้องต้นสองอย่างในร่างกาย

อย่างแรกเป็น คุณลักษณะในการปกป้องรักษาชีวิต อีกประการสำคัญกว่าคือ หน้าที่ในการมอบชีวิตเมื่ออสุจิของพ่อเข้าสู่ไข่ของแม่เพื่อสร้างเซลล์เดียวของชีวิต เซลล์จำเป็นต้องแบ่งตัวเป็นล้านล้านครั้ง สำหรับพัฒนาเป็นรูปแบบที่สามารถเชื่อมโยงต่อตัวเองอย่างเหนียวแน่นกับผนังมดลูก เพื่อที่จะเจริญวัยขึ้นเป็นเด็กทารกที่เพียบพร้อม
เซลล์ใหม่ทุกเซลล์ที่ก่อเกิดขึ้นจำต้องเติมเต็มด้วยน้ำเป็นหลัก "น้ำ" ส่งผลแก่การเติบโตพร้อมกับพัฒนาการอย่างมีสุขภาพอนามัยดีและมีศักยภาพ มารดาในช่่วงอุ้มท้องถ้าหากไม่ได้รับ "น้ำ" อย่างเพียงพอจะมีผลต่อรูปแบบทางสรีรวิทยาของบุตรที่กำลังมีพัฒนาการภายในมดลูกของมารดา"น้ำ"ที่หาได้ในระยะเวลาที่มีชีวิตในมดลูกจะกำหนดคุณสมบัติด้านพัฒนาการทางธรรมชาติของลูกที่กำลังเจริญเติบโต "น้ำ" มีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์เป็นอย่างมาก คุณแม่ช่วงมีครรภ์ไม่ควรไม่เอาใจใส่แค่ดื่มน้ำอย่างไรก็ได้
น้ำดื่มแอคทิเวทดีหรือไม่อย่างไร ?
น้ำดื่มแอคทิเวท ยี่ห้อ ACTIV120 ดีกว่าน้ำปกติทั่วไปก็เพราะว่าน้ำที่นำมาผลิตนั้นได้มาจากน้ำใต้ดินลึก 240 เมตร ผ่านขั้นตอนการกรองด้วยระบบรีเวอร์สออสโมซีสและฆ่าเชื้อด้วยโอโซน ขั้นตอนท้ายก่อนจะบรรจุน้ำในขวด ได้ผ่านขบวนการการแอคทิเวทหรือเรียกว่าการปรับโครงสร้างโมเลกุลน้ำ ทำให้น้ำดื่มแอคทิเวท มีคุณสมบัติคือ
-สะดวกสำหรับการดูดซึมไปเลี้ยงร่างกาย ช่วยเติมความชุ่มฉ่ำให้เซลล์ได้ดีกว่าน้ำสะอาดธรรมดา
-ช่วยบำรุงเซลล์ให้มีความสมบูรณ์ แข็งแรง
-ช่วยแก้ไขระบบการหมุนเวียนของโลหิตให้ทำหน้าที่เลี้ยงเซลล์ต่างๆของร่างกายได้ทั่วถึง
-สนับสนุนในการนำพาสารอาหาร อากาศ ภูมิต้านทาน เข้าสู่เซลล์ได้ดี
-ส่งเสริมขั้นตอนขับของเสีย สิ่งสกปรก เคมีให้ออกจากเซลล์ได้ดี
-ส่งเสริมการช่วยดูแลระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีความสามารถเผชิญกับเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอม ได้ดี
พลานามัยที่ดีของทุกคน..เริ่มทำได้ด้วยการดื่มน้ำ
ขอบคุณบทความจาก : https://activated-water-technology.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น