หน้าเว็บ

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หมายมั่นให้ลูกน้อยโตขึ้นอย่างสดชื่นในทุกๆวันถือเป็นความหมายมั่นสูงสุดของผู้ที่เป็นแม่และพ่ออย่างมาก เวลาที่ลูกเจ็บไข้ หัวอกของพ่อแม่ก็แทบตาย

แต่การที่ลูกจะมีอนามัยดี และเข้มแข็งนั้นก็ไม่ใช่จะบังเกิดกับเด็กทั้งหมด เหมือนกับน้องแอมป์ลูกผู้หญิงคนเล็กของคุณยุพาพร ลูกน้อยคนนี้มีอายุเพียงสองขวบเศษเท่านั้น ก็สัมผัสพบกับโรคร้าย เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นเนื้อร้ายในท้อง

“ยามค่ำคืนหนึ่งน้องเกิดมีไข้สูงถึง 38-40 องศา ต้องเร่งร้อนพาส่งโรงพยาบาลโดยกะทันหัน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2554 ครั้งก่อนนี้มีท่าทีท้องบวม ปวดท้องอย่างมากมาย ท้องผูก และอุจจาระแข็ง นายแพทย์ขอทำการเจาะเลือด เจาะไขสันหลัง เพื่อที่จะตรวจเนื้อร้ายและนำเลือดไปตรวจค้นที่ห้องแล็ป”

“ผลการตรวจพบมะเร็งในท้องของน้อง มีความยาวราวๆ 8 เซนติเมตร กว้าง 5 เซนติเมตร จำเป็นต้องกรีดหน้าท้องเพื่อนำชิ้นเนื้อในท้องไปตรวจเพื่อหาคำตอบ ช่วงนั้นแพทย์ก็แจ้งกับคุณยุพาพร ผู้เป็นแม่ให้เผื่อใจเอาไว้ว่าชิ้นเนื้อที่เอาไปวิเคราะห์นั้น อาจจะเป็น เนื้อร้าย 80% สิ้นเสียงคุณหมอยังกะฟ้าผ่าลงกลางใจของคนเป็นแม่”

“ฉันทำได้แค่ก้มศีรษะแล้วอุ้มลูกมากอดไว้ที่อก ลูกเองก็สวมกอดแม่เอาหน้าซบไหล่ ได้แต่พูดในใจว่าลูกยังผู้เยาว์นักเกิดมาได้ 1 ปี 6 เดือน ต้องพรากกันแล้วเหรอ แล้วพูดกับตนเองว่าน้องยังตายมิได้แม่จะกระทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อขอให้ลูกยังชีพอยู่ เมื่อถึงที่อาศัยก็ไม่เปิดปากกับใครได้แต่สวดมนต์จนพ่อของน้องโทรมาหาฉัน ดิฉันพูดไปร้องห่มร้องไห้ไปจนปวดหัว พ่อน้องบอกว่าอย่างใดก็ต้องเยียวยา”

ผลสำรวจจากห้องปฏิบัติการถูกนำมาในตอนบ่ายของวันเดียวกัน ปรากฏว่าชิ้นเนื้อที่นำไปตรวจหานั้นมิใช่เนื้อร้าย แต่ก็จำต้องรีบทำการเยียวยารักษาด้วยการให้เคมีบำบัด

“การทำคีโมทีแรกเมื่อเดือนมกราคม ทำให้เส้นของน้องระเบิด เป็นไข้ และเกล็ดเลือดลดลง แพทย์ทำการวิเคราะห์สแกนกระดูก เมื่อกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน ดิฉันกับสามี ต้องร่วมแรงร่วมใจฉีดยาละลายลิ่มเลือดให้ลูกทุกเมื่อเชื่อวัน ลูกก็ยังต้องกินยาลดความดันสูงทุกเมื่อเชื่อวัน”

“ช่วงที่ทำคีโมผิวของน้องเริ่มคล้ำ เล็บมือและเล็บเท้าก็ดำคล้ำ ปากซีดเผือด หน้าเซียว ผมก็ดั่งกับหญ้าแห้งไหม้ ผิวเหี่ยว เพียงแค่ย่างเท้าก็ไม่มีแรง รับประทานอาหารได้บางเบา และเขาจะร้องเกรงกลัวคนแปลกหน้า โดยเฉพาะแพทย์และพยาบาล”

ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเวลาความทุกข์ทรมานของครอบครัว เหตุการณ์ที่ดีก็บังเกิดพอให้ทั้งหมดในบ้านมีแรงใจขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย เมื่อเพื่อนบ้านแนะนำน้ำแอคทิเวท ให้กับน้องได้ลองดูดื่ม

“หลานของคนข้างบ้านคนนี้เป็นโรคSLEและได้นำน้ำแอคทิเวท (Activated Water)มาดื่มพร้อมทั้งใช้ชำระร่างกาย ผลคือหลานมีอาการทุเลาอย่างยิ่ง จากสถานการณ์นี้จึงตกลงใจให้น้องดื่มน้ำแอคทิเวท ควบคู่ไปกับการรักษา ตั้งแต่ตอนให้คีโมครั้งแรกตอนเดือนกุมภา ปี 54”

“ฉันยังให้ลูกดื่มน้ำดื่มแอคทิเวท ไปพร้อมด้วยการให้คีโมโดยไม่ให้ดื่มน้ำอื่นเลย และต่อจากนั้นทุกครั้ง ที่จะทำการฉายแสงก็จะจำต้องเจาะเลือดทุกหน ผลสรุปเลือดออกมาว่าเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดอยู่ในมาตรฐานปกติวิสัยดี ไม่จำเป็นให้ยาเสริมใดๆ เลย มากกว่านั้นฉันยังดีใจเหลือประมาณเมื่อผลสรุปการเอ็กซเรย์ และการสแกนกระดูกเป็นปรกติ”

ข้อสรุปการเอ็กซเรย์ CT สแกน หรือสมองกลความเร็วสูงครั้งที่สองทำหลังจากทีแรก 6 อาทิตย์ คราวนี้ผ่านการทำคีโมครั้งที่หนึ่ง และให้น้องดื่มน้ำดื่มแอคทิเวท ไปแล้ว พบว่าก้อนเนื้องอกในท้องเบาบางลงจากประมาณ 8 เซ็นติเมตร เหลือ 6 เซ็นต์
ผลการเอ็กซเรย์ CT สแกนครั้งที่ 3 หลังจากครั้งที่ 2 12 อาทิตย์ เนื้องอกในท้องหดตัวเหลือเกือบ 3 เซ็นต์
ผลการเอ็กซเรย์ CT สแกนครั้งที่ 4 ภายหลังครั้งที่สาม 16 สัปดาห์ กำลังคอยผลจากแพทย์เพื่อรอการผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออกให้ไม่เหลือ

“น้องมีผดขึ้นใบหน้าคล้ายกับกลากน้ำนมขึ้นที่แก้ม แต่บางทีทานขนมแล้วเปื้อนหน้ามีเม็ดขึ้น ฉันก็นำเอาผ้าชุบน้ำแอคทีฟ วันทูโอ มาเช็ดใบหน้าให้เขา ผดผื่นก็ค่อยๆ ยุบลงถึงไม่ต้องทายา”

“ปัจจุบันนี้น้องพลานามัยแข็งแรงไม่เหมือนผู้ป่วย เป็นเด็กแจ่มใส อารมณ์ดี พิสูจน์ได้ว่า ACTIV120 ช่วยสนับสนุนพลานามัยน้องได้"

“ก่อนหน้านี้ ลูกชายคนโตเป็นหวัดบ่อย ต้องนำพาไปหาหมอทุกอาทิตย์ เดี๋ยวนี้ก็ให้ลูกนำน้ำ ACTIV120ไปดื่มที่โรงเรียนด้วยตลอดเวลา ดิฉันมีสุขมากเนื่องมาจากเขาไม่เป็นไข้หวัดอีกแล้ว”
เดี๋ยวนี้บ้านคุณยุพาพรเป็นครอบครัวน้ำ ACTIV120 (Activated Water)เพราะดื่มทั้งครอบครัว

“มีอยู่ครั้งหนึ่งพริกกระเด็นเข้าตาแสบมาก ฉันใช้วิธีการลืมตาในACTIV120 ผลปรากฎว่าหายแสบสนิท”
“ต้นไม้หน้าบ้านคล้ายมันใกล้จะตายใบโรยราและเริ่มเหลือง ใช้ACTIV120ไปรด 2-3 ครั้ง มองดูว่าต้นไม้ฟื้นและเขียวสดใสขึ้นมา”



เครดิต : http://activated-water.easydrinkwater.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น